การสาธิตแคตตาล็อกแบบโต้ตอบ
ฉันเป็นผู้ค้าปลีกดอกไม้ที่สร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซสำหรับธุรกิจออนไลน์ ผ่าน e-marketing และโฆษณา การเข้าชมเว็บไซต์ค่อยๆเพิ่มขึ้น แต่ที่จริงแล้ว จำนวนคำสั่งความสำเร็จนั้นน้อยกว่าปริมาณการค้นหามาก เพื่อนของฉันแนะนำให้ฉันวิเคราะห์การเข้าชมเว็บไซต์ด้วยเครื่องมือ Google Analytics หลังจากนั้นฉันพบว่าอัตราตีกลับของเว็บไซต์สูงมาก และอัตราการแปลงก็ต่ำมาก ฉันต้องการได้รับยอดขายเพิ่มขึ้น ดังนั้นฉันจึงต้องหาวิธีแก้ปัญหาเพื่อลดอัตราตีกลับและปรับปรุงอัตรา Conversion ของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ตอนนี้มันได้รับการปรับปรุงอย่างเห็นได้ชัดโดยการเรียนรู้และฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ในบทความนี้ผมจะบอกคุณถึงวิธีที่ดีที่สุดในการรับอัตราการแปลงที่มากขึ้น ฉันดีใจที่ได้แบ่งปันประสบการณ์ของฉัน หวังว่ามันจะช่วยคุณได้
1. ค่อนข้างและเข้าถึงได้
ชื่อโดเมนของเว็บไซต์ของคุณควรเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ขายของคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณขายดอกไม้แต่กำหนดโดเมนเว็บไซต์เป็นเสื้อเชิ้ต ผู้เข้าชมจะไม่ต้องการซื้อเพราะผลิตภัณฑ์นั้นไม่ต้องการ และคุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเนื้อหาเว็บไซต์ของคุณสามารถเข้าถึงได้ง่ายบนอุปกรณ์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น PC/Mac/iPad/iPhone และอื่นๆ
2. หลักฐานทางสังคม
หลักฐานทางสังคมเป็นพื้นฐานสำหรับผู้เข้าชมจะซื้อหรือไม่ ในอดีต ฉันละเลยความสำคัญของการพิสูจน์ทางสังคม ตอนนี้ฉันเพิ่มคำรับรองของลูกค้าลงในเว็บไซต์เพื่อให้ผู้คนได้รับรายละเอียดเพิ่มเติม จากนั้นพวกเขาก็สามารถมั่นใจที่จะซื้อดอกไม้ของฉันได้ ซึ่งช่วยเพิ่ม Conversion ได้แทบทุกครั้ง แค็ตตาล็อกผลิตภัณฑ์ที่แชร์ได้จะช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าของคุณได้จากทุกแพลตฟอร์มโซเชียลหลัก
3. น่าดึงดูดและโต้ตอบ
ผู้เยี่ยมชมไม่ต้องการเรียกดูเว็บไซต์อีกต่อไป แต่พวกเขาต้องการสัมผัสประสบการณ์นั้นด้วย เปรียบเทียบกับคำ ใส่รูปภาพผลิตภัณฑ์ในเว็บไซต์มากขึ้นสามารถดึงดูดผู้เข้าชมให้เข้าพักและซื้อได้ นอกจากนี้ การฝังแค็ตตาล็อกผลิตภัณฑ์สำหรับซื้อสินค้าที่เหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่แบบโต้ตอบไปยังเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซสามารถปรับปรุงอัตราการแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณสามารถสร้างแคตตาล็อกพลิกหน้าออนไลน์สำหรับอีคอมเมิร์ซได้อย่างง่ายดายโดยใช้ Flip PDF Plus
